ดูดาวเขาใหญ่ บ้านไร่ลุงคริส

ผมขับรถมากว่า 100 กม. เลี้ยวรถออกจากถนนใหญ่เข้าสู่ถนนที่เล็กลงหลายครั้ง ตอนนี้ถนน 2 เลนที่เพิ่งลาดยางเสร็จใหม่ ๆ กำลังนำผมลอดผ่านต้นไม้น้อยใหญ่สองข้างทาง ผมเลี้ยวรถอีกครั้งเข้าสู่ถนนดินเลนเดียว ทางคดเคี้ยวเล็กน้อย รถปรับเป็นเกียร์ต่ำโดยอัตโนมัติวิ่งขึ้นเนินเขาจนสุดถนน บ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นตั้งอยู่ทางซ้าย รายล้อมด้วยเต็นต์พักแรม แลดูร่มรื่นใต้ต้นไม้ใหญ่

ที่ลานทำกิจกรรม เด็ก ๆ เพิ่งกลับมาจากการจับแมลง ส่วนคุณพ่อคุณแม่ก็กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันให้ลูก ๆ ตอนบ่ายเด็ก ๆ ทำกิจกรรมปลูกต้นไม้และไปเล่นน้ำที่ไหลผ่านฝายแบบอ่อยอิ่ง ลัดเลาะไปตามเนินเขาด้านล่าง

กิจกรรมปลูกต้นไม้

กิจกรรมของผมเป็นการสอนให้เด็ก ๆ รู้จักดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ  คุณแคลร์และน้องสาวเจ้าของไร่ ได้เตรียมดาวเคราะห์จำลองเอาไว้ ที่น่าสนใจคือดาวเคราะห์เหล่านี้มีขนาดเป็นไปตามสัดส่วนจริง ซึ่งเมื่อเอามาเรียงกันแล้ว ก็ดูเหมือนมีระบบสุริยะขนาดย่อมมาอยู่ในไร่กลางหุบเขา

ระบบสุริยะจำลอง ขนาดมีสัดส่วนเท่าของจริง ผลิตโดยคุณแคลร์และน้องสาวเจ้าของไร่

หลังเด็ก ๆ เล่นน้ำเสร็จ กิจกรรมสำรวจระบบสุริยะก็เริ่มขึ้น การถามคำถามเด็ก ๆ เกี่ยวกับดวงอาทิตย์ โลก และดวงดาวเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี จนกระทั่งเด็ก ๆ ทนความสวยงามของดาวเคราะห์ไม่ไหว ดาวเคราะห์จึงเคลื่อนที่ผ่านมือของเด็ก ๆ ไปอย่างรวดเร็ว วงแหวนดาวเสาร์เริ่มหลุดออกมา ดาวพฤหัสบดีหมุนติ้วไปตามแคร่ไม้ไผ่ ส่วนดาวเคราะห์ชั้นในก็กระจัดกระจายไปคนละทิศคนละทาง ระบบสุริยะได้ล่มสลายลงไวกว่าที่คิดไว้

จากกิจกรรมนี้ นอกจากการล่มสลายของระบบสุริยะแล้ว เราได้เห็นความสามารถของเด็ก ๆ วัยก่อนปฐมหลายคน เด็ก ๆ ตอบได้ว่าโลกกลมและจะเห็นได้ชัดว่ามันกลมต้องมองจากอวกาศ เด็ก ๆ รู้ว่าดวงอาทิตย์มีแสงสว่างในตัวเอง แตกต่างจากโลก และเด็ก ๆ ตั้งคำถาม ถามหาดวงจันทร์ เพราะไม่เห็นดวงจันทร์ในระบบสุริยะ

ความร้อนเริ่มคลายตัวลงเมื่อดวงอาทิตย์ลับยอดเขา ผมเริ่มตั้งกล้องดูดาว พร้อมหันกล้องไปทางทิศตะวันตก เวลาประมาณหกโมงครึ่ง เมื่อฟ้าเริ่มมืด ดาวเสาร์ก็ปรากฏ เด็ก ๆ และคุณพ่อคุณแม่ต่างมาชมความงามของวงแหวนดาวเสาร์ ทุกคนสามารถเห็นดาวเสาร์และวงแหวนได้อย่างชัดเจน

ก่อนเข้านอน หลอดไฟต่าง ๆ ถูกปิดลง เหลือเพียงแต่แสงจากเทียนหอมที่เด็ก ๆ ทำไว้ตอนหัวค่ำ ผมใช้เลเซอร์สีเขียวยิงขึ้นไปบนฟ้า ชี้กลุ่มดาวต่าง ๆ ให้เด็ก ๆ ดู พร้อมเล่านิทานเกี่ยวกับดวงดาวให้ฟัง

เวลาประมาณสี่ทุ่ม ความเงียบเริ่มเข้าปกคลุมเนินเขาที่ดูวุ่นวายเมื่อตอนกลางวัน ตอนนี้ทุกคนอยู่ในเต็นต์เป็นที่เรียบร้อย และไฟในเต็นต์ก็ค่อย ๆ ดับลง

นาฬิกาปลุกที่ข้อมือผมดังขึ้นบ่งบอกเวลาเกือบตีสี่ ท้องฟ้าก่อนรุ่งสางมีเมฆเบาบาง น้ำค้างลงหนัก ผมยกกล้องดูดาวที่เก็บเอาไว้ใต้ชายคาบ้านมาที่สนามหญ้า หันกล้องสูงไปบนท้องฟ้า เล็งไปที่โอไรออนเนบิวลา เห็นดาวสี่ดวงตรงกลางและกลุ่มฝุ่นก๊าซรอบ ๆ ชัดเจน แม้มีเมฆลอยมาบังบ้าง แต่ก็ไม่เยอะนัก

ตอนนี้มีแต่คุณพ่อคุณแม่จากสามครอบครัวเท่านั้นที่มาส่องกล้องดูดาวด้วยกัน ส่วนเด็ก ๆ ยังนอนกันอยู่ในเต็นต์

กล้องเปียกมาก น้ำค้างลงหนัก ยังไม่ค่อยมีคนตื่นเลย

ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้น ดวงดาวต่าง ๆ เริ่มจางหายไป ผมตากกล้องดูดาวไว้กับแดดรอให้กล้องแห้งจากน้ำค้าง

ดูเหมือนในกิจกรรมตั้งกล้องดูดาว เด็ก ๆ ดูจะสนใจนิทานดาวเสียมากกว่าการมองผ่านกล้องดูดาว ส่วนคุณพ่อคุณแม่ก็มีความสนใจกลับกัน คราวหน้าผมคงต้องเตรียมนิทานมาให้เยอะกว่านี้

ดวงอาทิตย์ลอยสูงขึ้นจนพ้นยอดเขา หลาย ๆ ครอบครัวเริ่มตื่นและทำกิจวัตรประจำวันยามเช้า  เด็ก ๆ ต่างดูสดชื่นพร้อมลุยกิจกรรมของวันใหม่อีกครั้ง จนท. อุทยานสามคนมารอที่ไร่ พร้อมที่จะพาเด็ก ๆ ไปเดินป่า

หลังเก็บของเสร็จ ผมก็ลาคุณแคลร์และน้องสาว ก่อนขับรถออกมาจากไร่ ผมเลี้ยวรถเพื่อเข้าสู่ถนนที่ใหญ่ขึ้นหลายครั้ง จนสุดท้ายก็เข้าสู่ถนนมิตรภาพและเดินทางกลับกรุงเทพฯ

ผู้สนใจกิจกรรมบ้านไร่ลุงคริสหาสามารถข้อมูลได้ที่ บ้านไร่ลุงคริส นะครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รายชื่อกลุ่มดาว 88 กลุ่ม

ดาวประจำเมือง / ดาวโต้รุ่ง / ดาวประกายพรึก