อำลาหน้าหนาว ดูดาวบนดอยอินทนนท์
หนึ่งทุ่ม วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2560
ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว อากาศบนดอยอินทนนท์เริ่มเย็นตัวลง รถของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำหน้ารถตู้ของเราไปตามทางคดเคี้ยวสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ก่อนเลี้ยวซ้ายผ่านป้ายสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ คนขับใช้เกียร์ต่ำและเร่งเครื่องขึ้นเนินสูงชั้น เมื่อสุดถนน หอดูดาวขนาดใหญ่ก็ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า
อุณหภูมิบนนี้ต่ำกว่า 10 องศา ไอน้ำจากเครื่องดื่มร้อนเป็นควันขาวลอยแทรกคนร่วมร้อยที่ใส่เสื้อกันหนาว ทุกคนต่างเตรียมตัวรอดูดาว คืนนี้ท้องฟ้ามืดสนิท ดวงดาวบนทองฟ้าสว่างสดใส ระยิบระยับ เหมือนอยู่ใกล้เสียจนเกือบจับต้องได้
บนดาดฟ้า ผู้คนต่อแถวหลังกล้องดูดาวอย่างไม่ขาดสาย กล้องดูดาว 4 ตัว กระจายกันอยู่ประปราย หันทิศทางไปยัง ดาวศุกร์ กาแลกซี่แอนโดรมีดา โอไรออนเนบิวลา และกระจุกดาวเปิดกระจุกหนึ่ง
เสี้ยวของดาวศุกร์มองเห็นได้ชัดเจนสว่างสดใสเหมือนเสี้ยวของดวงจันทร์ กาแลกซี่แอนโดรมีดาสวยงามมองเห็นเป็นฝ้าขาวเข้มตรงกลางและค่อย ๆ จางลงทางด้านข้าง โอไรออนเนบิวลามีดาว 4 ดวงสว่าง เรียงตัวกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู [Trapezium] ถูกรายล้อมด้วยละอองฝุ่นและก๊าซ ส่วนกระจุกดาวเปิดก็เห็นดาวมากมายจนนับไม่ถ้วน ซึ่งตาเปล่าของเราแยกดาวในกระจุกดาวออกเป็นดวง ๆ แบบนี้ไม่ได้
เสียงชายวัยกลางคนดังขึ้น คำกล่าวต้อนรับและรายละเอียดกิจกรรมคืนนี้เดินทางผ่านอากาศไปทั่วทั้งบริเวณ หลังสิ้นเสียง แสงเลเซอร์สีเขียวถูกยิงออกไป นำสายตาทุกคนไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงดาว เสียงชายคนเดิมดังขึ้นอีกครั้ง การบรรยายดาวในท้องฟ้าจริงเริ่มขึ้น
กลู่มดาวเต่าหรือนายพราน กลุ่มดาวสุนัขใหญ่ กลุ่มดาวสุนัขเล็ก และสามเหลี่ยมหน้าหนาว (skymap.com) |
"ความงามของท้องฟ้าสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เมื่อลากเส้นเชื่อมโยงดวงดาวต่าง ๆ และใช้จินตนาการอีกนิดหน่อย เราก็จะสามารถเห็นกลุ่มดาวได้"
"เมื่อแหงนหน้ามองไปยังบริเวณสูงสุดของท้องฟ้า เจอกลุ่มดาวนายพราน [Orion] ตรงกลางมีดาวสามดวงเรียงกันเป็นเข็มขัดของนายพราน ที่ห้อยมาจากเข็มขัดของนายพรานคือดาบ เป็นที่อยู่ของโอไรออนเนบิวลา [M42 ในภาพ] คนไทยเรียกกลุ่มดาวนายพรานว่ากลุ่มดาวเต่า และดาวสามดวงที่เรียงกันนั้นคนไทยเรียกว่ากลุ่มดาวไถ ดาวบีเทลจุส [Betelgeuse] และดาวไรเจล [Rigel] มองเห็นด้วยตาเปล่าชัดเจน ดาวทั้งสองดวงมีสีต่างกัน บีเทลจุสเป็นดาวสีแดงส่วนไรเจลเป็นดาวสีฟ้า"
"สีของดาวสามารถใช้บอกอายุของดาว ดาวฤกษ์สีฟ้าเป็นดาวฤกษ์เกิดใหม่ ส่วนดาวฤกษ์สีแดงเป็นดาวฤกษ์ที่กำลังจะตาย"
"เมื่อมองเลยมาทางทิศใต้มองเห็นกลุ่มดาวสุนัขใหญ่ [Canis Major] ลูกกระพรวนที่ห้อยคอสุนัขตัวนี้เป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดบนท้องฟ้าชื่อซิริอุส [Sirius] สูงจากกลุ่มดาวสุนัขใหญ่ มองเห็นกลุ่มดาวสุนัขเล็ก [Canis Minor] มีดาวฤกษ์ดวงที่สว่างที่สุดชื่อโพรซิออน [Procyon] บีเทลจุส ซิริอุส และโพรซิออนเรียงตัวกันเป็นรูปสามเหลี่ยม เรียกว่าสามเหลี่ยมหน้าหนาว [Winter Triangle]"
"สูงจากขอบฟ้าทางทิศเหนือไม่มากนัก เห็นดาวห้าดวงเรียงตัวกันเหมือนตัว M กลุ่มดาวกลุ่มนี้คือกลุ่มดาวแคสซิโอเปีย [Cassiopia] [ไม่แสดงในภาพ] คนไทยเรียกว่ากลุ่มดาวค้างคาว กลุ่มดาวนี้ใช้ในการมองหาดาวเหนือได้"
"ดาวเหนืออยู่ทางทิศเหนือเสมอ หากหาดาวเหนือเจอ จะสามารถบอกทิศในเวลากลางคืนได้"
"ดอยอินทนนท์ไร้แสงไฟจากตัวเมือง อยู่สูงเหนือเมฆ ความมืดมิดของท้องฟ้าเผยให้เห็นฝ้าสีขาวเป็นทางยาว ๆ พาดผ่านบริเวณที่มีดวงดาวค่อนข้างหนาแน่น นี่คือกาแลกซี่ของเรา...กาแลกซี่ทางช้างเผือก”
การบรรยายดาวในท้องฟ้าจริงจบลง แสงเลเซอร์สีเขียวหายไปพร้อมกับเสียงของชายวัยกลางคนผู้นั้น ผู้คนเริ่มคุยกันเบา ๆ แถวหลังกล้องดูดาวเริ่มยาวขึ้นอีกครั้ง
สุดปลายทางเชื่อมที่ทอดไปยังหอดูดาว ประตูบานหนึ่งเปิดออก แสงสลัวจากภายในเล็ดลอดออกมา ผู้คนเริ่มเข้าแถวรอกันอย่างเป็นระเบียบ ...เสียงนับจำนวนคนดังขึ้น
หอดูดาวมีพื้นที่ภายในไม่มากนัก จึงมีการจำกัดคนเข้าครั้งละ 10 คน ในหอดูดาวมีกล้องดูดาวหน้ากล้องขนาด 2.4 เมตร ใหญ่กว่ากล้อง 4 ตัวแรกหลายเท่า และใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล้องดูดาวยิ่งหน้ากล้องใหญ่ยิ่งทำให้สามารถเห็นวัตถุที่ไกลมาก ๆ และสว่างน้อยมาก ๆ ได้ เพราะมีพื้นที่รับแสงมาก กล้องดูดาวหันทิศทางไปยังโอไรออนเนบิวลา ทำให้เราเห็นดาว 4 ดวง [Trapezium] ได้ชัดเจนกว่ากล้องดูดาวตัวเล็ก ดาวทั้ง 4 ดวงแลดูสุกสว่างสดใส ส่วนฝุ่นและก๊าซรอบ ๆ ก็แลดูเรืองรองสวยงามกว่าเดิมมาก
โลกของเราโคจรรอบดวงอาทิตย์ ตำแหน่งของโลกที่เปลี่ยนไปทำให้เรามองเห็นกลุ่มดาวบนท้องฟ้าต่างกันในแต่ละฤดู หลังจากสิ้นฤดูหนาว กลุ่มดาวหน้าหนาวจะปรากฏบนท้องฟ้าเป็นระยะเวลาสั้นลงเรื่อย ๆ และคงต้องรอถึงปลายปี เมื่อหน้าหนาวกลับมา เราจึงจะสามารถมองเห็นกลุ่มดาวเหล่านี้ได้อีก
24 ชั่วโมงถัดมา ล้อเครื่องบินแตะพื้นรันเวย์ที่ดอนเมือง แทกซี่มาตามการเรียกของแอพลิเคชันในสมาร์ตโฟน พาวิ่งไปตามทางคดเคี้ยวของทางยกระดับ ก่อนเลี้ยวซ้ายผ่านป้ายบอกชื่อซอยสีฟ้า เมื่อสุดถนน บ้านหลังหนึ่งก็เริ่มเปิดไฟสว่าง เสียงเปิดประตูบ้านดังขึ้น
ท้องฟ้าเหนือกรุงเทพ แสงดาวดูเหมือนจะสู้แสงจากตัวเมืองไม่ไหว กลุ่มดาวต่าง ๆ แลดูจางลงไป ส่วนโอไรออนเนบิวลาก็มองไม่เห็น
ไฟในบ้านปิดลง แสงสลัวจากไฟจากถนนเล็ดลอดผ่านผ้าม่านเข้ามา อากาศเริ่มเย็นตัวลง หลังจากเครื่องปรับอากาศทำงานได้ไม่นาน...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น